2013.09.21 - [รีวิว] วางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า ไปกันได้ไม่ยากอย่างที่คิดครับ

 

 

พม่าดินแดนที่ยังมีมนต์ขลัง แค่ได้ยินชื่อก็นึกภาพไปถึงเจดีย์ทองคำองค์ใหญ่ ณ เมืองย่างกุ้ง นึกถึงแม่น้ำอิระวดีตามบทประพันธ์อันลือลั่นของยาขอบ นึกถึงทุ่งเจดีย์นับพันๆองค์ที่พุกาม นึกถึงพระธาตุอินทร์แขวน และอื่นๆอีกหลายที่ พม่าในสายตาผมนั้นน่าสนใจนัก แต่ก่อนหน้านี้การเดินทางไปท่องเที่ยวในพม่าอย่าว่าแต่แบบลุยเดี่ยวแบกเป้เลยครับ ขนาดว่าไปแบบทัวร์ได้ยินมาหนาหูว่าไม่ได้สะดวกสบายนัก ผมเองก็จดๆจ้องๆหาโอกาสและจังหว่ะเหมาะอยู่หลายทีก็ยังไม่ได้ไป

มาจนเดี๋ยวนี้การเดินทางไปพม่านั้นสามารถไปเที่ยวได้ด้วยตัวเองแล้ว จากการไปทริปชิมลางมาแล้ว ที่วางแผนและไปเองแบบแบกเป้ลุยเดี่ยวผมสามารถบอกได้ว่าสบายครับ เร็วๆนี้กำลังจะจัดเวลาไปอีกทริปที่สอง แม้จะไม่ได้สบายมากมายแบบไปประเทศอื่นๆในย่านนี้ แต่ถ้าวางแผนดีๆไปได้เองครับ

วางแผนก่อนเดินทาง

พม่าเปิดประเทศแล้ว แต่การเที่ยวพม่าทั้งประเทศในทีเดียวอาจจะยังไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยประเทศพม่านั้นมีขนาดใหญ่ มีสิ่งที่น่าสนใจน่าเที่ยวกระจายอยู่ตามเมืองหลวงเก่าหลายแห่ง แถมครั้นถ้าจะไปยาวๆแล้วเดินทางไปตามเมืองต่างๆนั้นก็ทำไม่ได้ง่ายนัก เพราะระบบคมนาคม ถนน รถไฟ ภายในประเทศไม่ได้พร้อมสมบูรณ์แบบยุโรปที่ท่องเที่ยวสบายต่อเนื่องกันหมด กรอปกับผมเองก็ยังไม่เคยไปด้วย เวลาเท่าที่จะปลีกไปได้แต่ละทีก็อาจจะสาม สี่วัน เลยกะว่าจะแตกออกเป็นหลายๆทริป เที่ยวตามเมืองสำคัญๆ คร่าวๆไว้ 4 ทริปดังนี้ครับ

      • ย่างกุ้ง หงสาวดี - จัดเป็นทริปเซอร์เวย์ ดูลู่ทางและทำความคุ้นเคยกับระบบ ระเบียบ และการเดินทางที่นี่ โดยเที่ยวเมืองหลวง และเลยไปหงสาวดีที่ศึกษาแล้วว่าไปได้ไม่ไกลกัน
      • มัณฑะเลย์ เมืองหลวงเก่า
      • พุกาม ดินแดนมหัศจรรย์ทุ่งเจดีย์
      • สุดท้ายค่อยไปเก็บตกโดยเข้าทางมอลัมไยน์

เตรียมการเรื่องการขอ Visa เข้าประเทศพม่า

ปัจจุบัน (กันยายน 2556) การเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวพม่าของคนไทยนั้น ยังต้องมีการขอวีซ่าเข้าประเทศอยู่นะครับ โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับการขอวีซ่าแบบท่องเที่ยวราวๆ 800 กว่าบาท โดยต้องเตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุใช้งานเหลือใม่น้อยกว่า 6 เดือน กรอกเอกสารขอวีซ่า ติดรูปถ่ายและไปยื่นที่สถานทูตพม่าที่ถนนสาทรเอง หรือจะผ่านบริษัททัวร์ก็มีรับเดินเรื่องให้อยู่ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนิดหน่อยลองหาดูไม่ลำบากครับ บนเน็ตผมก็เห็นอยู่หลายเจ้า แต่สำหรับผมไหนๆก็จะได้รู้เลยเลือกไปยื่นเอง ลองดูๆ

ข้อมูลการขอวีซ่าพม่า
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปประเทศพม่า ต้องขอวีซ่าก่อนการเดินทาง โดยหลักฐานประกอบการขอวีซ่ามีดังนี้

  • หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุใช้งานเหลือใม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • สำเนาหนังสือเดินทางจำนวน 1 ฉบับ
  • รูปถ่ายสีขนาดเดียวกันและแบบเดียวกันจำนวน 2 รูป
  • ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า 810 บาท (สำหรับนักท่องเที่ยว) และ 1,440 บาท (สำหรับนักธุรกิจ)
  • นักท่องเที่ยวสามารถสามารถขอวีซ่าเข้าประเทศได้เป็นเวลา 28 วัน แต่จะมีการยืดเวลาในการต่อวีซ่าออกไปอีก 14 วัน (สำหรับท่องเที่ยว) และ 3 เดือน (สำหรับนักธุรกิจ)
  • ระยะเวลาในการพิจารณาเอกสาร 3-4 วันทำการ

สำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าพม่า
132 ถ.สาธรเหนือ ซ.71 กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ แผนกวีซ่า 022337250, 022344789, 022366898

สถานฑูตพม่าอยู่ถนนปั้น ติดถนนสาธร ตรงข้าม รพ. เซนต์หลุยส์พอดี การเดินทางไม่ยาก ผมไปรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสถานีสุรศักดิ์ แล้วจะเดินไปทางถนนนราธิวาส ผ่าน ร.ร. กรุงเทพคริสเตียน หรือเรียกมอร์เตอร์ไซต์รับจ้างตรงนั้นได้เลยบอกไปสถานทูตพม่าครับ 20 บาท

เวลาทำการ (อันนี้ผมอ่านจากเว็บว่าเป็นแบบนี้)
เปิดบริการ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์
เวลา 09.00 - 15.00 น. ยื่นวีซ่า
เวลา 15.00 - 17.00 น. รับวีซ่า


แต่มาถึงที่หน้าสถานทูต ป้ายประกาศว่าเป็นแบบนี้ ยื่นวีซ่า 9:00 - 12:00 / รับวีซ่า 15:30 - 16:30 ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าอันไหนอัพเดทกว่า แต่เอาเป็นว่าไปช่วงเช้าเป็นดี สำหรับการไปยื่นวีซ่าครับ สำหรับคำว่าวันหยุดนั้นเค้าหมายถึงวันหยุดของเค้านะครับ บางทีต้องเช็คก่อนว่าวันธรรมดาบ้านเราแต่อาจเป็นวันหยุดพิเศษเทศกาลอะไรของบ้านเค้า สถานทูตเค้าจะปิดระวังไปเสียเที่ยว


เอกสารผมหาโหลดและกรอกไปล่วงหน้าแล้ว ไปถึงก็รับบัตรคิวรอยื่น บรรยากาศเป็นตามภาพ ผมอาจโชคดีเพราะวันที่ไปคนไม่เยอะนัก ฟังๆมาทราบว่าปรกติแล้วคนเยอะมากขนาดว่าต้องต่อแถวล้นออกไปข้างนอกกันเลยทีเดียว แล้วแต่ช่วงยิ่งตอนนี้คนไปเที่ยวพม่าเยอะขึ้น แต่เหมือนกำลังเจ้าหน้าที่สถานทูตจำกัดรองรับไม่ค่อยไหว ซึ่งดูแล้วคงจะจริงตรงห้องที่ไปยื่นวีซ่านั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมริมถนน เล็กๆไม่ใหญ่มาก ถ้าคนมาเยอะคงล้นอย่างที่ว่าจริงๆ


ยื่นเอกสารจ่ายเงินค่าวีซ่าเรียบร้อย ก็จะได้ใบนัดรับวีซ่าแบบนี้ครับ อีกสามวันมารับได


ตัดไปวันรับวีซ่าเลยผมมาถึงบ่ายสามกว่าๆ บรรยากาศคนละเรื่องกับวันมายื่น ช่วงบ่ายจะมีแต่การนัดรับวีซ่า เพราะงั้นคนเลยน้อยกว่าเดิมอีกเยอะเลยครับ โล่งๆเลยไปถึงตามเวลานัดยื่นใบก็รับเล่มหนังสือเดินทางเราคืนได้เลย แป้บเดียวเอง


ได้เล่มก็รีบเปิดดูตรวจสอบความถูกต้องนะครับ แหม!! นึกว่าจะเป็นแผ่นสติ้กเกอร์ที่ไหนได้เป็นตรายางแล้วเขียน จริงๆนี่น่าจะทำเสร็จในวันเดียวนะเนี่ย รอซะสามวัน


วีซ่าท่องเที่ยวมีอายุสามเดือนนะครับ วางแผนขอดีๆ เผื่อเวลาล่วงหน้าจะได้ไม่ยุ่งนัก เป็นอันว่าตอนนี้มีวีซ่าเข้าพม่าแล้ว ส่วนจะเดินทางยังไงว่ากันต่อครับ

เตรียมการเรื่องการเดินทาง ที่พักและประกันฯ

การเดินทางเข้าพม่าตอนนี้สะดวกสบายมาก มีสายการบินหลายสายให้เลือก (ณ กันยายน 2556) จากกรุงเทพฯสามารถเลือกขึ้นจากทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิได้ตามสะดวก ที่แน่ๆผมเลือกขึ้นจากดอนเมืองใกล้บ้าน แน่นอนใช้สายการบินที่มีราคาค่าตั๋วคุ้มค่าครับ บินชั่วโมงกว่าๆเองสบายมาก


ทั้งไปและกลับ จัดไปในราคาสบายกระเป๋าจองให้อุ่นใจครับ

ส่วนที่พักอันนี้เป็นอะไรที่ต้องละเอียดนิดนึง ตามที่บอกว่าทริปแรกผมเลือกที่จะพักในย่างกุ้งและตระเวณเที่ยวรอบๆให้ทั่ว ผมก็เลือกจาก agoda.com และอีกสองสามเจ้าประจำที่เคยใช้ แต่ดูแล้วสำหรับพม่า agoda ดูจะมีตัวเลือกและราคาดีกว่า โดยเลือกโรงแรมในย่างกุ้งที่ดูแล้วไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่ไกลเมืองมากนักที่สำคัญนึกสภาพบ้านเมืองเค้าไม่ออกจริงๆ ดูรูปห้องพักก็เหมือนเสี่ยงดวง ดูในเว็บดีไปเจอจริงๆจะยังไงก็ไม่รู้

เอาเป็นว่าถ้าเป็นย่างกุ้ง หลักๆผมดูแล้วว่าผมกะจะเที่ยวย่านในวงกลมตามภาพ ที่มีเจดีย์ชเวดากองเป็นหลัก เที่ยววัดหลายแห่งย่านในเมือง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพม่า เดินตลาด เดินดูวิถีชีวิตริมแม่น้ำย่างกุ้ง เดินดูระบบขนส่ง และแถวทะเลสาบกันด่อจี สุดท้ายเหลือที่เข้าตาอยู่สามโรงแรม แต่พอจดๆจ้องๆจะจองจริงๆในวันที่เราต้องการ กลับได้แค่ที่เดียว เอาก็เอาเลยจองไปซะก่อนจะหายไปอีก ค่อยไปเสี่ยงเอาข้างหน้า ให้มีทั้งวีซ่า มีตั๋วเดินทาง มีที่พักให้พร้อมก่อน อ่อ..ผมไม่ลืมสำหรับซื้อประกันเดินทางด้วยโดยเฉพาะกับประเทศนี้ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เกิดไปเกิดอุบัติเหตุหรือต้องเข้าโรงพยาบาล ของหายโดนขโมยสารพัด เลือกแบบคุ้มครองหมดเลยครับ ปรกติผมใช้ของกรุงเทพประกันภัยประจำแต่เที่ยวนี้พม่าไม่มีเลยต้องใช้ของ AIG แทน เข้าเว็บระบุวันกดซื้อ ตัดบัตร ได้รับตอบรับทาง email สะดวกดี ดูๆตอนนี้ก็พร้อมเดินทางหล่ะ

มาถึงจุดนี้ทุกอย่างเหมือนจะพร้อมแล้ว เหลือแค่รอวันเดินทาง ระหว่างนั้นแนะนำแบบนี้ครับ

  • ผมจัดการพิมพ์เอกสารจองทุกอย่างแยกเป็นสองชุดกันหาย เก็บไว้กับตัวหนึ่งชุด และใส่ในกระเป๋าเดินทางใหญ่อีกหนึ่งชุด
  • จัดการส่งเข้า email ตัวเองไว้ด้วย และอัพโหลดใส่ Dropbox แยกหมวดหมู่ไว้อันไหน Booking เครื่องบิน ที่พัก โรงแรม ประกันชีวิต เผื่อหายอีกจะได้เข้าเน็ตจากที่นั่นได้ไม่ต้องวุ่นวาย (งานนี้ไม่เอาคอมฯไป เอาไปแต่ไอแพดมินิ)
  • แลกเงินดอลล่าสหรัฐ ตอนไปแลกต้องเน้นแบงค์ใหม่ๆเท่านั้นนะครับ ที่นั่นแบงค์เก่าจะไม่รับทุกกรณี
  • จัดของลงกระเป๋า ลองชั่งน้ำหนัก และ ณ วันเดินทางปิดกระเป๋าและใช้มือถือถ่ายรูปกระเป๋าเดินทางเราทุกมุมไว้ เผื่อกรณีกระเป๋าหายหรือชำรุด อันนี้แนะนำทำให้เป็นนิสัยเวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน จะสะดวกมากเวลากระเป๋าหาย ช้า หรือพัง เรามีรูปยืนยันทันทีครับ ปรกติถ้าเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ ผมจะทำเป็นถ่ายตรงเคาร์เตอร์เพิ่มด้วย ถ่าย น้ำหนักที่ขึ้นที่จอ (แอบติดๆเจ้าหน้าที่ว่าภาพนี้ถ่ายก่อนบินนี่แหละ เวลาอ้างกระเป๋าพังจะได้ยันได้)

รีวิวหน้าจะมาพาบินไปเที่ยวย่างกุ้งนะครับ โปรดติดตาม

ดูอัลบั้ม >> https://www.facebook.com/

บทความต่อเนื่อง >> 2013.09.28 - [รีวิว] ได้เวลาเปิดหูเปิดตา ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า "ย่างกุ้งในวันที่กำลังเปลี่ยนไป" ตอนที่ 1

 

 
IP: