2013.10.22 - [รีวิว] ได้เวลาเปิดหูเปิดตา ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า "ย่างกุ้งในวันที่กำลังเปลี่ยนไป" ตอนที่ 3

 

จากบทความตอนที่แล้ว >> 2013.09.28 - [รีวิว] ได้เวลาเปิดหูเปิดตา ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า "ย่างกุ้งในวันที่กำลังเปลี่ยนไป" ตอนที่ 1

และ >> 2013.09.29 - [รีวิว] ได้เวลาเปิดหูเปิดตา ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า "ย่างกุ้งในวันที่กำลังเปลี่ยนไป" ตอนที่ 2

จากรีวิวตอนที่แล้วตั้งแต่มาถึง เข้าที่พัก เที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพม่า และเดินตลาดกันแล้ว มุมมองสำหรับเมืองใหญ่ที่สุดของพม่า และอดีตเมืองหลวงแห่งนี้ อย่างที่เราทราบๆกัน ว่าแม้จะเจริญที่สุดในพม่าแล้ว แต่ถ้าจะเทียบกับอีกหลายๆเมืองในอาเซี่ยน ความที่มันไม่ทันสมัยหรือเจริญจนเกินไปนี่แหละคือเสน่ห์ของที่นี่ รีวิวนี้ลองสำรวจแง่มุมต่างๆของที่นี่ที่ผมเห็นดูครับ

จากมุมหน้าศาลาว่าการเมืองย่างกุ้งที่เป็นสวนใหญ่ รวมถึงมีเจดีย์สุเลอยู่ใกล้ๆกัน ตรงจุดนี้เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางเมืองย่างกุ้งก็ว่าได้ รอบๆสวนใหญ่แห่งนี้เริ่มรายล้อมด้วยตึกสำนักงาน ที่ก่อสร้างในแนวสูงและดูทันสมัย อีกไม่นานย่างกุ้งเองก็คงหนีความเจริญไปไม่พ้น

เจดีย์สุเลและศาลาว่าการเมืองย่างกุ้งที่อยู่ใกล้ๆกันครับ

จากสวนสาธารณะใหญ่หน้าศาลาว่าการเมืองย่างกุ้ง ที่รอบๆมีอาคารสำนักงานสูงให้เห็นโดยรอบ รวมถึงย่านการค้าต่างๆ ที่เริ่มมีอาคารที่พักสมัยใหม่ ในรูปแบบแปลกตากว่าของเดิมๆให้เห็นทั่วไป

ริมน้ำแม่น้ำย่างกุ้ง สายเลือดใหญ่ของย่างกุ้ง

เช้าอีกวันที่ย่างกุ้ง ผมพาตัวเองไปริมแม่น้ำย่างกุ้งแต่เช้าตรู่ ย่างกุ้งมีแม่น้ำใหญ่แบบเจ้าพระยาบ้านเรา แต่เท่าที่ดูด้วยตาแม่น้ำย่างกุ้งที่นี่ใหญ่กว่าเจ้าพระยาบ้านเรามาก น้ำสีแดงขุ่น แม่น้ำนี้ไหลไปออกแม่น้ำอิระวดีที่สิเรียมก่อนออกทะเล เช่นเดียวกับเมืองเก่าๆที่มีแม่น้ำใหญ่ๆผ่าน วิถีชีวิตต่างๆของคนเมืองริมแม่น้ำ ก็จะหาดูได้แถวๆริมน้ำครับ เลยตั้งใจมา


ถนนหนทางเส้นเลียบแม่น้ำย่างกุ้ง และวิถีชีวิตยามเช้าๆ

ยามเช้าที่ท่าเรือริมแม่น้ำย่างกุ้ง


มีเรือใหญ่ๆจอดทอดสมออยู่ในแม่น้ำหลายลำอยู่ครับ เรือพวกนี้คงวิ่งเข้าออกทะเลแบบคลองเตยบ้านเรา แม่น้ำทั้งกว้างทั้งขุ่น มีดินแดงๆในน้ำแบบเห็นด้วยตาเปล่าเลยครับ

เรือข้ามฝาก หรือจะเรือที่วิ่งรับส่งชาวย่างกุ้งที่อาศัยอยู่อีกฝั่งหรืออีกที่นึง มาส่งที่ท่าเรือนี้ จะเห็นว่าที่นี่เค้าไม่ได้วางเครื่องเรือแบบเรือหางยาวภูมิปัญญาชาวบ้านบ้านเราครับ บ้านเราเค้าจะวางเครื่องเรือในเรือแล้วใบพัดออกใต้ท้องครับ คนขับเรือจะนั่งขับแล้วโยกหางเสือเอา

ชีวิตยามเช้าเริ่มที่นี่ เรือแต่ละลำจะขนคนมาที่ท่านี้ แต่ละคนลงจากเรือก็จะรีบเดินไปทางในเมือง บ้างคงรีบจะไปทำงาน บ้างคงจะไปตลาดใกล้ๆ เดินตามเค้าไปกัน สิ่งที่เห็นคนย่างกุ้งถือจนชินตาคือปิ่นโตกับร่มครับ ปิ่นโตที่นิยมจะเป็นแบบสามชั้น ถือกันทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งชาย ทั้งหญิง

ตรงท่าเรือที่ผมมา เดินมาอีกนิดก็จะเป็นตลาดและวัดชื่อดังที่คนไทยนิยมมากันมาก ใช่แล้วครับ วัดโบตะทาวน์หรือวัดที่มี นัตโบโบยี หรือเทพทันใจที่คนพม่าและคนไทยนิยมมากราบไหว้ขอพรครับ

เนื่องจากตลาดตรงนี้เป็นตลาดหน้าวัด ที่มีคนนิยมมากราบไหว้วันนึงมีคนมาวัดนี้เป็นจำนวนมากไม่ขาดสาย ร้านค้าขายของกราบไหว้มีหลายร้านที่เดียว

วัดโบตะทาวน์ ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปทองคำ และเทพทันใจ

วัดโบตะทาวน์ เป็นวัดสำคัญอันดับต้นๆของย่างกุ้งมาช้านาน ประวัติวัดนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างมหาเจดีย์ชเวดากองด้วย โดยเมื่อมีการอัญเชิญพระเกศาธาตุมาที่ย่างกุ้งและขึ้นฝั่งตรงท่าเรือที่นี่ (คือท่าเรือที่เพิ่งไปมาเมื่อครู่) ณ จุดที่ตั้งวัดมีการตั้งพิธีต้อนรับ โดยมีทหารถึง 1,000 นายด้วยกัน ซึ่งทหาร 1,000 นายนี่เองที่ตรงกับภาษาพม่าว่า "โบตะทาวน์" จึงเป็นชื่อวัดแต่นั้นมา

พระเกศาธาตุที่อัญเชิญมาจากอินเดียนั้น ยังได้แบ่งประดิษฐานไว้ ณ วัดนี้ด้วย โดยมีการสร้างมณฑปไว้ ให้พุทธศาสนิกชนและผู้ศรัทธาเข้าไปกราบไหว้ได้

ในมณฑปมีการเดินแคบๆพอเข้าไปตรงกลางมณฑปที่พระเกศาธาตุประดิษฐานในครอปแก้วที่ใกล้ขนาดมองเห็นครอปแก้วได้

ทางเดินแคบๆในมณฑปสามารถเดินได้รอบครับ บางมุมก็จะมีทั้งพระและผู้ศรัทธานั่งสวดมนตร์ ทำสมาธิกัน

จากมณฑปที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ เดินออกมาที่ลานวัด จะเจอพระเจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ณ จุดนี้ชาวพม่าก็กราบไหว้กันอยู่ไม่น้อยครับ

มีภิกษุณีน้อยกำลังสรงน้ำพระตรงรอบๆเจดีย์อยู่ ผมเลยตามเข้าไปสรงบ้าง ที่นี่ถ้าจะสรงน้ำพระให้สรงน้ำด้วยจำนวนอายุ บวกหนึ่งครับ ตักกันอายคนรอคิวเลยทีเดียว

เดินข้ามไปวิหารอีกฝั่งเป็นอีกจุดที่แนะนำว่าถ้ามาวัดนี้ต้องแวะมาครับ วิหารอีกฝั่งนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยที่งดงามมาก

พระพุทธรูปองค์นี้เดิมเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังไม้สักที่เค้าว่างดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในอุษาคเนย์ และตามที่เราทราบกันพระราชวังแห่งนี้ถูกเผาทำลายหมดสิ้นด้วยระเบิดในช่วงสงครามทำให้คนรุ่นหลังได้แต่จินตนาการถึงความงดงามและศิลปะ สมบัติมากมาย แต่ก่อนนั้นในช่วงที่อังกฤษเข้ามาปกครองพม่า สมบัติบางส่วนได้ถูกนำออกจากพระราชวังไปก่อนแล้ว รวมถึงพระพุทธรูปองค์นี้ โดยไปตั้งแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์วิตอเรีย 66 ปี ก่อนภายหลังชาวพม่าได้อัญเชิญกลับมายังพม่า พระพุทธรูปองค์นี้งดงามมากจริงๆครับ หลังกราบแล้วผมนั่งมองอยู่ตรงนี้นานทีเดียวกว่าจะลุกออกไปเดินในวัดต่อ

ส่วนด้านหลังวัดฝั่งท่าน้ำ มีศาลากลางน้ำที่มีรูปปั้นของ "นัต" ตนหนึ่งคือ นัตโบโบยี หรือเทพทันใจนั่นเองครับ

ที่ทั้งคนไทยและคนพม่าเชื่อว่าถ้ามาบูชากราบไหว้และอธิษฐานขออะไรแล้วหล่ะก็ จะสมปรารถนาด้วยความรวดเร็ว คนเยอะทีเดียวครับตรงศาลานี้ ตรงศาลานี้จะมีสารพัดคนขายของเลยครับ พูดไทยได้ด้วย เค้าจะพยายามยัดของบูชาให้ เท่าที่ผมดูผมว่าถ้าไม่อยากซื้อ เราบอกเลยจะครับว่าไม่เอา เพราะไม่งั้นเค้าจะจัดให้เลยทั้ง พวงมาลัย มะพร้าว ผ้าคล้อง แล้วเรียกเงินที่หลัง หลายจ๊าดอยู่ครับ อย่าเอาเลย ผมเห็นคนไทยหลายคนที่มา ก็เดินเข้าไปไหว้และอธิษฐานเลย อาจมีแบงค์ทำบุญจับใส่มือรูปเทพทันใจสองใบ ไหว้แล้วอธิษฐานก่อนดึงกลับไปบูชาหนึ่งใบ ทิ้งไว้ที่มือนัตท่านหนึ่งใบ แป้บนึงพวกคนขายของ (สงสัยจะเป็นลูกศิษย์นัต) มาดึงเอาไป

ออกมาด้านนอกวัด แม้ภาพชินตาคือผู้ชายที่นี่จะนุ่งโสร่ง แต่ภาพที่เจ้าหนูคนนี้กำลังสะบัดโสร่งกลางที่สาธารณะนี่ ไม่ชินตาจริงๆ คงร้อนสินะเจ้าหนู

จากวัดโบตะทาวน์ ในระหว่างทางที่จะไปวัดอื่นต่อ พี่ Taxi ขาประจำที่ผมผูกมิตรไว้ พาผมแวะมาที่ที่นึง ที่เค้าภูมิใจนำเสนอมาก ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกครับว่าเค้าจะพาไปไหน จนรถมาจอดมาแวะที่ริมทะเลสาบแห่งนึง

ลงจากรถเดินดูรอบๆ จากจุดนี้มองผ่านทะเลสาบไป เห็นยอดเจดีย์ชเวดากองอยู่ไม่ไกล

แล้วเค้าก็ชี้ให้ดูบ้านหลังนึงริมทะเลสาบ ที่เป็นจุดหมายที่เค้าพามา ใช่แล้วครับ.. บ้านอองซาน ซูจี หลังจากนี้ผมลองให้เค้าเล่าเรื่องอองซาน ซูจี ที่จริงๆหลายเรื่องเราก็รู้แล้ว แต่ผมเลือกนั่งฟังเงียบๆให้เค้าเล่าให้เต็มที่ ดูท่าทางคนที่นี่จะรักเธอมากทีเดียวครับ

พอเห็นผมซักถามและทำท่าจะสนใจ หลังจากพาดูด้านหลังบ้านแล้ว พี่เค้าก็พามาดูหน้าบ้านด้วย มุมนี้ที่เราคุ้นเคยเวลาเห็นจากข่าว ที่ซูจีจะขึ้นมาพูดกับคนนอกบ้านผ่านรั้วนี้ในช่วงที่เธอโดนคุมบริเวณแค่ในบ้าน ตรงจุดนี้เหมือนกลายเป็นจุดท่องเที่ยวไปเลยที่ใครมาอาจต้องลงไปถ่ายรูปกับหน้าบ้าง ซูจี ผมก็ด้วย.. :)

ย่างกุ้งยังไม่จบ ตอนหน้าจะพาไปวัดพระเขี้ยวแก้ว โรงช้างเผือก และแน่นอนมหาเจดีย์ชเวดากองครับ

ดูอัลบั้ม >>

บทความต่อเนื่อง >> 2013.10.23 - [รีวิว] ได้เวลาเปิดหูเปิดตา ลุยเดี่ยวเที่ยวพม่า "ย่างกุ้งในวันที่กำลังเปลี่ยนไป" ตอนที่ 4

 
IP: