[ความเดิมจากตอนแรก 2013.08.10
- หลบกรุงฯท่องธรรมชาติไม่ใกล้ไม่ไกล ไปเขาใหญ่กันครับ]
และ
[ตอนสอง 2013.08.11
- หลบกรุงฯท่องธรรมชาติ ทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้ว เขาใหญ่]
ยังคงพาเที่ยวอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นะครับ
จากตอนแรก "หลบกรุงฯท่องธรรมชาติไม่ใกล้ไม่ไกล
ไปเขาใหญ่กัน" พาเดินชมอาคารบริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่แห่งใหม่ที่สะดวกสบาย
ต่อด้วย "หลบกรุงฯท่องธรรมชาติ
ทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้ว เขาใหญ่" ที่อยู่ไม่ไกลกับอาคารบริการนักท่องเที่ยวครับ
เดินดูป่าเพลินๆในทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้วระยะทาง 1.2
กิโลเมตรแล้ว พอให้ได้กลิ่นอายป่าธรรมชาติ ถ้ายังพอมีเวลาแนะนำให้ไปชมวิวริมผามองป่าแบบมุมกว้างที่
"ผาเดียวดาย"
กันครับ
(กดที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ชัดๆ)
จากแผนที่ที่เราดูที่อาคารบริการนักท่องเที่ยวฯ
เบอร์ 1 ตามภาพคือที่ที่เราอยู่ ส่วนผาเดียวดายนั้น อยู่ที่เบอร์
2 ในแผนที่ครับ แน่นอนว่าจากอาคารศูนย์บริการฯที่เราอยู่หรือทางเดินกองแก้วไปที่ผาฯนั้นต้องใช้รถยนต์ครับ
ในแต่ละช่วงของปีนั้น บางครั้งทางเดินชมธรรมชาติผาเดียวดายอาจมีการปิด
งดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมนะครับ อย่างไรควรสอบถามจากเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนครับ
ระยะทางทางรถยนต์ที่ผมใช้เดินทางจากที่ทำการอุทยานฯ
(เริ่มต้นทางด้านบนของแผนที่) มายังผาเดียวดาย (ด้านล่างของแผนที่)
มีระยะราวๆ 14 กิโลเมตรครับ ทางขึ้นเขาบางช่วง กับตามแผนที่ด้านบนที่ผมลง
POI ไว้มีทางพังเป็นหลุมใหญ่บ้างเป็นจุด ซึ่งรถเล็กๆไม่ควรไปนะครับ
อย่างน้อยๆก็กระบะหรือรถที่มีกำลังมากๆหน่อย
(กดที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ชัดๆ)
มาตามทางตลอดทางมีป้ายบอกครับมาไม่ยาก
เพียงชั่วอึดใจเราก็มาถึงจุดจอดรถเพื่อลงเดินต่อไปยังผาเดียวดาย
ณ จุดนี้ถ้าเราเดินไปยังผาและเดินกลับมายังจุดจอดรถเพื่อกลับนั้น
รวมระยะทางอยู่ที่ 446 เมตรครับ ถึงจะดูว่าไม่ไกลเหมือนทางเดินธรรมชาติกองแก้วที่เพิ่งเดินไป
แต่ที่นี่จะเป็นทางขึ้น-ลงเขาครับ ดังนั้นอาจต้องใช้แรงขาซักหน่อย
พร้อมแล้วออกเดินกันเลยครับ
แต่เช่นเดิมครับทางเดินชมธรรมชาติในเส้นนี้
ทางอุทยานฯได้ทำทางเดินไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินได้สะดวกสบาย
เราสามารถเดินไปเรื่อยๆพร้อมๆกับศึกษาธรรมชาติแบบหน้าผาไปด้วย
โดยทางอุทยานฯได้มีการจัดทำป้ายให้ความรู้ไว้ให้อ่านเช่นเดียวกับทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้วครับ
ดังนั้นเราจึงสามารถเดินๆอ่านๆไปได้เรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก อากาศแถวนั้นพอจะมีลมจากหน้าผามาปะทะพอให้หายเหนื่อยได้อยู่ครับ
(กดที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ชัดๆ)
ตามที่บอกว่าทางเดินที่อุทยานฯทำนั้น
แม้จะทอดตัวแทรกเข้าไปในป่า แต่เท่าที่สังเกตุการก่อสร้างก็พยายามไม่ได้รบกวนหรือตัดต้นไม้มากนัก
ทางเดินที่พยายามทอดตัวคดเคี้ยวไปมาก็เพื่อทั้งให้การเดินทำได้สะดวก
นัยยะนึงก็เพื่อให้เราไม่ต้องลุยเดินลงไปทำลายต้นไม้เล็กที่ขึ้นอยู่ด้วย
ทางเดินพยายามหลบต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ส่วนตรงไหนหลบไม่ได้จริงๆทั้งทางเดินและต้นไม้ก็อยู่ด้วยกันได้ครับ
เดินมาเรื่อยๆ
เราก็เริ่มจะมองเห็นวิวมุมสูงๆแบบไกลๆของผืนป่าเบื้องล่างอยู่ไม่ไกลแล้วครับ
มุมมองจากบนนี้แม้ไม่ได้สูงมากนัก แต่ด้วยสภาพที่เบื้องล่างเป็นผืนป่าทั้งผืน
ไม่ได้มีบ้านหรืออาคารมาให้รกตาเรา ภาพจากมุมนี้ช่างแปลกตาจริงๆ
สุดท้ายเราก็มาถึงจุดหมายของเรา
ใช่แล้วครับที่นี่ "ผาเดียวดาย" ผืนป่าปราจีนบุรีทั้งผืนอยู่ตรงหน้า
แถมวันที่ผมไปไม่มีนักท่องเที่ยวอื่นเลย ให้บรรยากาศเดียวดายสมชื่อผาจริงๆครับ
แดดล่มลมตก
ลมเย็นๆวิวสวยๆ ทำผมนั่งทอดอารมณ์อยู่ที่มุมนี้พักใหญ่เลยครับ
จนฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เพื่อนๆร้องเรียกว่าเราต้องเดินกลับเดี๋ยวจะมืดซะก่อนกว่าจะออกไปที่ปากทางอีก
อดแอบหันกลับมาดูอีกครั้งไม่ได้ กะไว้ว่าจะแอบมาเยือนอีกแบบวันธรรมดา
จะได้เดียวดายซะให้เต็มที่
สุดท้ายขากลับ
กับทางเดินกึ่งๆขึ้นเขาตลอดทางครับ ชมธรรมชาติแล้วก็อย่าเพิ่งท้อใจ
แต่ออกแนวได้บริหารข้อเข่าหน่อยเป็นการทดสอบความฟิตไปในตัว
เช่นเคยครับป้ายให้ความรู้เรื่องป่ายังคงมีตลอดทาง ให้เราแวะอ่านได้เรื่อยๆ
ทราบมาว่าป้ายชุดนี้ทั้งที่ผาเดียวดายนี้ ทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้ว
รวมถึงอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวใหม่นั้น มีคนสนับสนุนจัดทำให้อุทยานฯ
ให้เรามีอาคารสวยๆรวมถึงมีป้ายดีๆให้อ่าน นึกนิยมอยู่ในใจนะครับ
:)
กับบางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่นี่!!
จากมุมกว้างๆที่ผาหินของหน้าผาเดียวดายที่ผมได้ไปเยือนเมื่อ
เมษายน 2556 ถึงมันจะดูอันตราย ไม่ได้ทันสมัยหรือสวยงามในสายตาใครหลายๆคนที่อดบ่นไม่ได้ว่า
"เดี๋ยวก็ได้มีคนตกลงไปบ้างหล่ะ....." หรือ "น่าจะมีรั้วกั้น....."
บ้างหล่ะ หรืออื่นๆอีกมากมายที่อาจจะได้ยินนักท่องเที่ยวพูดถึง
แต่ผมว่านี่แหละคือธรรมชาติที่แท้จริง ตลอดจนคนที่ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่นั้น
เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องอยากจะมาได้สัมผัสความเดียวดายที่ผาหิน
ณ ผืนป่าเขาใหญ่แห่งนี้ครับ แต่ครั้งหนึ่งเมื่อ กรกฎาคม 2554
นั้น นักท่องเที่ยวที่ไปที่นั่นเคยพบกับสิ่งแปลกปลอมที่มุนษย์พยายามยัดเยียดลงไปยังพื้นป่ามรดกโลกแห่งนี้
แม้จะไกลถึงผาเดียวดายก็ไม่เว้น ภาพที่มีคนแชร์ไว้บน pantip.com
แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเคยมีความพยายามที่จะสร้างระเบียงเหล็กบนหน้าผาหินนี้
เพื่อให้เป็นที่ชมวิวของนักท่องเที่ยว ก่อนจะโดนกลุ่มคนรักธรรมชาติ
และรักผาเดียวดายรวมตัวและขอให้รื้อถอนออกไปเมื่อวันที่ 22
กรกฎาคม 2554 (รายละเอียดตามอ่านได้ที่เพจเครือข่ายรักผาเดียวดาย
https://www.facebook.com/lakphadeawdai
) ไม่งั้นคงดูไม่จืดครับ
เมษายน 2556
กรกฏาคม 2554
*ภาพจาก http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10829989/E10829989.html
บทความที่เกี่ยวข้องในชุดนี้
2013.08.10 - หลบกรุงฯท่องธรรมชาติไม่ใกล้ไม่ไกล
ไปเขาใหญ่กันครับ
2013.08.11
- หลบกรุงฯท่องธรรมชาติ ทางเดินศึกษาธรรมชาติกองแก้ว เขาใหญ่
2013.08.20
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาเดียวดาย เขาใหญ่
|